Latest News

พระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกียงศักดิ์ โกวิทวานิช

พี่น้องที่เคารพรักในพระคริสเจ้าทุกท่าน

         พระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์ พระอัครสังฆราช แต่งตั้งแห่งกรุงเทพฯ คุณพ่อ คณะเซอร์เซนต์ปอลเดอร์ชาร์ตร คณะกรรมการ สภาวิทยาลัยเซนต์ หลุยส์ คณาจารย์แพทย์ แพทย์ พยาบาล และทุกท่านผู้มีส่วนร่วมใน ครอบครัวเซนต์หลุยส์ทั้งหมด ทั้งสถานพยาบาลฯ สถาบันวิทยาลัยเซนต์หลุยส์

         โอกาสที่พวกเราจัดฉลอง “สี่ทศวรรษ สาน สร้าง แสงแห่งรัก” ในวันนี้ นามชื่อการฉลองวันนี้ มีความหมายอย่างยิ่ง ควรค่าแก่ความภูมิใจ “สี่ทศวรรษ สาน-สร้าง-แสงแห่งรัก” และสระสรวยในถ้อยคํา “สัมผัสใน”

         แม้ว่าจะเป็นช่วง 40 ปีของวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ แต่ยังคงหมายถึงองค์ รวมของครอบครัวทั้งครบ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ คณะเซอร์เซนต์ปอลเดอร์ ชาร์ตร ย้อนไปถึงพระสังฆราช หลุยส์ เวย์ ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ใน ปี 1898 ต่อเนื่องมาถึงคณะผู้บริหารฯ คณะแพทย์ พยาบาล ทุกสมัย มาตลอด สภาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ บุคลากรทางการแพทย์ การพยาบาล และ ผู้มีส่วนร่วมงานทุกผู้ทุกคน

        โดยจะมองย้อนไปไม่กล่าวถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ ของพระคุณเจ้าพระคาร์ ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ผู้ก่อตั้งวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ นี้ไม่ได้ ที่พ่อจะขอ กล่าววันนี้มีเพียงประเด็นเดียว ด้วยคํา คําเดียว ที่พ่อได้กล่าวในพิธีเปิด การประชุมสหพันธ์สภาพระสังฆราชแห่งเอเชีย (หรือFABC)โอกาส 50 ปี การก่อตั้งสหพันธ์ดังกล่าวนี้ ซึ่งสภาพระสังฆราช แห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพสถานที่ และมีบรรดาพระคาร์ดินัล พระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช และ คริสตชนฆรวาสจํานวนมาก เข้าร่วมประชุมตลอด 3 สัปดาห์ ที่บ้านผู้หว่าน

        ช่วงนั้นจนถึงบัดนี้มีคําๆหนึ่งที่ผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมือง มักจะอ้างถึงคําว่า “Soft Power” แต่ในวันนั้น พ่อไม่ได้ใช้ตรงคําๆนี้ พ่อได้ กล่าวด้วยคําว่า “Soffest Power ” และได้ยืนยัน แก่สมาชิกผู้เข้าร่วม ประชุม 50 ปี FABC ว่าพระศาสนาจักรคาทอลิกมีมากกว่าSoft Power พระศาสนาจักรคาทอลิกเรามี “Soffest Power” หรือพลานุภาพอัน ยิ่งใหญ่ที่สุดของความอ่อนโยน ความนุ่มนวน ของการกระทํา การ ประพฤติปฏิบัติ อันหมายถึง “อารยธรรมแห่งความรักเมตตา (Civilization of love) ที่พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงนําเข้ามาในโลกของเรา นี้ พระองค์ท่านได้ทรงสอนพวกเราคริสตชน และสาธุชนทุกท่านผู้มีน้ำใจ ดี ที่เปิดใจตอบรับ และร่วมก้าวเดินในวิถีทางนี้ พร้อมกับการที่พระองค์ ท่านได้ทรงกระทําให้ดู ให้ผู้คนได้เห็นด้วยประจักษ์พยานชีวิตจริงของ พระองค์ท่าน โดยการสละพลีพระชนม์ชีพบนไม้กางเขน เพื่อกอบกู้ มนุษย์ชาติให้รอดพ้นจากบาป และความตายนิรันดร

        จากแบบอย่างและคําสั่งสอนของพระองค์ท่าน วิถีชีวิตอารยธรรม ความรักความเมตตานี้ จึงกลับกลายเป็นชีวิต จิตใจ การกระทํา และ พันธกิจทั้งสิ้นของพระศาสนาจักรคาทอลิกเสมอเรื่อยมา ทั้งในการ ประกาศเทศน์สอน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยประจักษ์พยานชีวิต ที่ รองรับจึงจะทําให้“ข่าวดี” ที่พระศาสนาจักรเทศน์สอน“น่าเชื่อถือ”ไม่ว่าจะ เป็นพันธกิจ การอบรมศึกษา งานเมตตาสงเคราะห์ทุกด้าน รวมถึงพันธ กิจการอภิบาล-ดูแล รักษา-พยาบาล ผู้เจ็บไข้ได้ป่วย สถานพยาบาลและ วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ นี้ก็วางรากฐานอยู่บน “Soffest Power” ของอารยธรรมความรักเมตตาหรือ “Civilization of love” ขององค์พระเยซูคริสต เจ้า ตลอดเรื่อยมา ในช่วง “สี่ทศวรรษ-สาน-สร้าง-แสงแห่งรัก” นี่เอง

         ดังนั้น ขอสมาชิกทุกท่านแห่ง “ครอบครัวเซนต์หลุยส์” มั่นใจว่า วิทยาลัยเซนต์หลุยส์แห่งนี้จะไม่หยุดอยู่เพียง “สี่ทศวรรษสานสร้างแสง แห่งรัก” เท่านั้น พันธกิจแห่งรักและรับใช้สังคมไทยนี้จะก้าวต่อไป ด้วย พระพรจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่พวกเราทุกคนได้ร่วมใจโมทนาคุณพระองค์ ในพิธีบูชาขอบพระคุณแล้วนี้ พร้อมกับการทําส่วนของเรา อย่างจริงจัง และทุ่มเทอุทิศตนมากขึ้น จะช่วยให้วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ และพวกเราทุก คนประสบความสําเร็จมากยิ่งๆขึ้นตลอดไป
และขอพระพรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผ่านทางคําเสนอวิงวอนของ ท่านนักบุญหลุยส์ก่อเกิดผลอย่างอุดมบริบูรณ์ตลอดไป